เมื่อต้องวางแพลนจะไปเที่ยวฮ่องกง นอกจากจำเป็นต้องรู้ขั้นตอนต่าง ๆ ที่ไมล์เลจเคยเขียนเอาไว้แล้ว ยังมี Tips การเที่ยวฮ่องกงให้สนุกที่จำเป็นต้องรู้เอาไว้ด้วย ในกรณีที่เราไปเที่ยวเอง หรือไปแบบซื้อแพ็คเกจทัวร์ที่จะมีวันว่างให้ได้ไปตะลอนทัวร์ทั่วเมืองด้วยตัวคุณเอง แน่นอนว่าต้องหาข้อมูลเพิ่มเติม แต่ต้องมีข้อมูลอะไรบ้าง Check list กันตรงนี้เลย
บัตร Octopus คือบัตรเติมเงินอเนกประสงค์ที่ใช้จ่ายได้แทบทุกอย่างในฮ่องกง ไม่ว่าจะเป็นค่ารถไฟฟ้า MTR, รถบัส, รถราง, เรือเฟอร์รี่, ร้านสะดวกซื้อ, ซูเปอร์มาร์เก็ต และร้านอาหารอีกมากมาย
เคาน์เตอร์บริการลูกค้าของ MTR ทุกสถานี, ร้านสะดวกซื้อ 7-Eleven และ Circle K
เติมเงินได้ที่เครื่องเติมเงินอัตโนมัติในสถานี MTR, ร้านสะดวกซื้อ หรือผ่านแอปพลิเคชันมือถือ
สะดวก รวดเร็ว ไม่ต้องพกเงินสดเยอะ และบางครั้งยังมีส่วนลดพิเศษอีกด้วย
Street Food เป็นอีกหนึ่งเสน่ห์ของฮ่องกง ที่ไม่ควรพลาด! เพราะจะได้ลิ้มลองอาหารท้องถิ่นรสเด็ด ราคาเป็นมิตร เช่น ลูกชิ้นปลาทอด, วาฟเฟิลไข่, โจ๊ก,บะหมี่, ของปิ้งย่างแปลก ๆ และอีกมากมายที่หาไม่ได้ในบ้านเรา
Temple Street Night Market, Ladies' Market, มงก๊ก, ซัมซุยโป, จิมซาจุ่ย
อาหารเช้าสไตล์ฮ่องกง (Cha Chaan Teng) เป็นชุดอาหารเช้าสุดคุ้ม ที่รวมเมนูสไตล์จีนกวางตุ้งอย่างบะหมี่ มาเสิร์ฟพร้อมไข่คน แฮม ขนมปังปิ้ง ฮ่องกงบัน และเครื่องดื่มร้อน/เย็น ที่เลือกได้ แนะนำชานมสไตล์ฮ่องกงที่อร่อยหลายร้านเลย
เวลาให้บริการ: ส่วนใหญ่เปิดตั้งแต่เช้าตรู่จนถึงช่วงสายๆ (ประมาณ 11.00 น.)
ราคาช่วงบ่าย: บางร้านอาจมีราคาสูงขึ้นเล็กน้อยในช่วงบ่าย แต่โดยรวมแล้วก็ยังถือว่าคุ้มค่า
เบเกอรี่ฮ่องกงขึ้นชื่อเรื่องความอร่อยและความหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นทาร์ตไข่, พายหมูแดง, โบโลเปา หรือHong Kong Bun (Pineapple bun) ที่คล้าย ๆ กับโรตีบอย แต่บางร้านจะชิ้นใหญ่นุ่มฟูและส่วนใหญ่ไม่ใส่ซินนาม่อนที่บางคนไม่ชอบ , รวมถึงขนมเปี๊ยะแป้งบางที่คนไทยรุ่นใหม่ชอบกิน ซึ่งจริงๆแล้ว ขนมปังอื่น ๆ และคุกกี้ที่ฮ่องกง ก็อร่อยไปหมด ถ้าเป็นคนชอบกินขนมหวาน
ร้านเบเกอรี่แนะนำ: Tai Cheong Bakery, Honolulu Coffee Shop, Kam Wah Cafe & Bakery, Tart Addict
MTR (Mass Transit Railway) คือระบบรถไฟฟ้าใต้ดินของฮ่องกง ที่ครอบคลุมทุกพื้นที่สำคัญของเมือง และเป็นตัวช่วยสำคัญมากของนักท่องเที่ยว เพราะการเดินทางโดย MTR ดูจะเป็นเรื่องง่ายที่สุดที่พาเราไปได้แทบจะทุกที่ในฮ่องกง
บัตร Octopus: สะดวกที่สุด เพียงแตะบัตรที่เครื่องอ่าน
Single Journey Ticket: ซื้อได้ที่เครื่องจำหน่ายตั๋วอัตโนมัติในสถานี
Tourist Day Pass: เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการเดินทางหลายเที่ยวในหนึ่งวัน
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน MTR Mobile: เพื่อตรวจสอบเส้นทางและเวลาเดินทาง
เรียนรู้ภาษาจีนกวางตุ้งพื้นฐาน: จะช่วยให้การสื่อสารกับคนท้องถิ่นง่ายขึ้น
เตรียมร่มและเสื้อกันฝน: เพราะฮ่องกงมีฝนตกบ่อย
Q : บัตร Octopus มีกี่ประเภท ต้องซื้อแบบไหน
A:
บัตร Octopus มาตรฐาน (On-loan Adult Octopus)
เหมาะสำหรับ: ผู้พักอาศัยในฮ่องกงและนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาฮ่องกงบ่อยครั้ง
ค่ามัดจำ: 50 HKD (สามารถขอคืนได้เมื่อเลิกใช้บัตร)
จ่ายครั้งแรก 150 บาท
บัตร Octopus นักท่องเที่ยว (Sold Tourist Octopus):
เหมาะสำหรับ: นักท่องเที่ยวที่เดินทางมาฮ่องกงเป็นครั้งคราว
ค่ามัดจำ: ไม่มี
ค่าบริการ: มีค่าออกบัตร 39 HKD (ไม่สามารถขอคืนได้)
Q : อาหารเช้าสไตล์ฮ่องกงเปิดขายตั้งแต่กี่โมง?
A : อาหารเช้าชาชันเตง หรืออาหารเช้าสไตล์ฮ่องกง ส่วนใหญ่จะเปิดขายตั้งแต่ประมาณ 7.00 น. และอาจมีอาหารกลางวัน อาหารเย็นด้วย
Q : อาหาร Street Food ราคาถูกกว่าที่ขายในร้านอาหารหรือเปล่า มีคำแนะนำอะไรเพิ่มเติมไหม?
A : อาหารริมทางที่ฮ่องกงจะราคาถูกกว่าในร้านอาหารพอสมควร มีทั้งแบบที่คุณภาพค่อนข้างดี และปานกลาง แต่อาจจะลำบากนิดหน่อยในเรื่องของการใช้ภาษา ควรใช้ Application แปลภาษาในโทรศัพท์ช่วยก็จะง่าย
Q : ร้านอาหารริมทางสามารถใช้บัตร Octopus จ่ายได้ไหม?
A : มีบางร้านที่รับบัตร Octopus แต่ควรมีเงินสดติดไว้จะง่ายที่สุด
Q : นอกจากทาร์ตไข่ชื่อดังแล้ว มีขนมอะไรของฮ่องกงที่อยากแนะนำเพิ่มเติมไหม?
A : นอกจากทาร์ตไข่แล้ว ยังมีขนมอื่น ๆ อีกหลายอย่างที่คนไทยชอบกันมาก เช่น ขนมรังผึ้ง ที่เสียงส่วนใหญ่บอกว่าอร่อยจริง
Q : ระหว่างรถไฟฟ้า MTR กับ Citybus การเดินทางแบบไหนสะดวกที่สุดและราคาถูกกว่า?
A : ข้อดีของรถไฟฟ้า MTR คือ เชื่อมถึงสถานที่สำคัญที่เป็นแหล่งท่องเที่ยว รวมถึงรวดเร็วกว่า Citybusแต่ส่วนใหญ่จะต้องยืน และเดินไกลหน่อย ขณะที่รถCitybus จะได้นั่งและมี Free WiFi ให้ใช้ระหว่างเดินทางด้วย ส่วนราคาก็ไม่ได้แตกต่างกันมากนัก ค่าโดยสารรถ Citybus จะเริ่มต้นถูกกว่ารถไฟฟ้า MTR เล็กน้อย