ภาพตรึงใจในห้องผ่าตัด - เอพี รายงานเบื้องหลังภาพประทับใจในห้องผ่าตัด สามีภรรยาให้กำลังใจกันผ่านหน้ากากป้องกันเชื้อไวรัสโคโรนา ท่ามกลางความตึงเครียดจากโรคระบาดโควิด-19
เบน เคเยอร์ และมินดี บร็อก สามีและภรรยาชาวอเมริกัน ซึ่งต่างเป็นพยาบาลแผนกวิสัญญี จ้องตากันผ่านหน้ากากป้องกันเชื้อและสวมชุดป้องกันเชื้อ หรือ พีพีอีที่เทอะทะ แต่ไม่อาจกั้นความรู้สึกห่วงใยลึกซึ้งถึงกันและกันได้ ทำให้เพื่อนร่วมงานประทับใจจนอยากเก็บความรู้สึกดีๆ นี้ไว้ จึงนำไปโพสต์ลงสื่อโซเชียล
ปรากฏว่าภาพนี้ได้รับการแชร์ในสื่อสังคมออนไลน์อย่างกว้างขวางเพราะเป็นแรงบันดาลใจให้กับคนทั่วโลก
เคเยอร์ วัย 46 ปี กล่าวว่า ทุกคนพูดถึงภาพนี้กันทั้งนั้น เพราะเรากำลังข้ามผ่านสิ่งเดียวกันและเป็นสัญลักษณ์ของความหวังและความรัก
ส่วนบร็อก วัย 38 ปี เผยว่าคู่ของตนตัวติดกันมาก ทำงานด้วยกันและสนับสนุนให้กำลังใจซึ่งกันและกันเสมอ ไม่ใช่เพราะเบนเป็นสามี แต่ในฐานะเพื่อนมนุษย์
ทั้งคู่อาศัยอยู่ในบ้านรัฐฟลอริดา ของสหรัฐ ทำงานที่เดียวกันและตอนนี้ ร่วมภารกิจเดียวกัน ต้องเคียงบ่าเคียงไหล่แบกรับภาระสุดเสี่ยงในการสอดท่อหายใจให้กับผู้ป่วยผ่าตัดซึ่งคนไข้หลายรายที่ป่วยโควิด-19 แต่ทั้ง 2 คนไม่ลังเลที่จะเป็นอาสาสมัครในโรงพยาบาลเทมปา เจนเนอรัล
การสอดท่อหายใจเข้าทางปากผู้ป่วยไปตามทางเดินหายใจต้องสัมผัสใกล้ชิดผู้ป่วยอย่างยิ่งและไวรัสติดต่อผ่านทางละอองเสมหะหรือน้ำลายทำให้มีความเสี่ยงสูง เจ้าหน้าที่ที่ทำหน้าที่นี้ จึงต้องป้องกันตัวเองอย่างดีเยี่ยม และให้เจ้าหน้าที่เพียงไม่กี่คนเท่านั้นทำหน้าที่นี้ ก่อนการผ่าตัดจะเริ่มขึ้น
ผู้ป่วยบางรายถูกรถชน บางรายต้องผ่าตัดสมองเพราะเส้นเลือดแตก โรงพยาบาลจึงต้องสำรองห้องผ่าตัดฉุกเฉินไว้สำหรับกรณีฉุกเฉินเช่นนี้ ท่ามกลางความวุ่นวายในการรักษาผู้ป่วยโรคโควิด-19
เบนและมินดีพบกันระหว่างกำลังศึกษาเป็นพยาบาลแผนกดมยาหรือวิสัญญี ในปี 2550 จากจุดเริ่มต้น ที่ทั้งคู่ได้นั่งติดกันเพราะเรียงชื่อตามลำดับตัวอักษร
หลังจากนั้น 5 ปี ก็แต่งงานกันและทำงานให้กับ TeamHealth บริษัทเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์
ในวันที่บันทึกภาพถ่ายก้องโลกนั้น สามีภรรยาโต้เถียงกันว่าจะเปิดเพลงอะไรฟังในรถระหว่างขับไปทำงานและใครจะทำหน้าที่ล้างจานที่บ้าน ประกอบกับบร็อกต้องร่วมงานกับทีมใหม่ ทำให้ต่างคนต่างเครียด
หลังจากนั้น เมื่อพบกันอีกในห้องผ่าตัด ความบาดหมางขุ่นเคืองใจมลายหายไปแล้ว ดังปรากฎในภาพ
เกเยอร์เปิดใจว่าไม่กังวลว่าอาจจะป่วย แม้ว่าเสี่ยงต่อการติดไวรัสก็ตาม แม่ของตนหายจากโรคโควิด-19 ส่วนเพื่อนร่วมงานกลัวติดไวรัส ขณะที่ผู้ป่วยรู้สึกโดดเดี่ยวเพราะโรงพยาบาลจำกัดจำนวนญาติที่มาเยี่ยม
เรื่องราวที่ชื่นใจเช่นนี้เกิดขึ้น ท่ามกลางข่าวร้ายเกี่ยวกับไวรัสที่ระบาดไปทั่วโลก จึงเป็นเรื่องที่น่ายินดีและยกย่องผู้ที่เสียสละอยู่ด่านหน้าการต่อสู้กับไวรัสร้าย
By: Bell Boy
ขอบคุณ ข้อมูลจาก SOURCE1
สนใจแพคเกจท่องเที่ยว, ตั๋วเครื่องบินทั่วโลก หรือบัตรท่องเที่ยวต่างๆ สามารถติดต่อสอบถามได้ที่ 02-2945598, 092-294 5598
หรือ คลิ๊ก https://www.itravelroom.com/
