1. Merlion Park
สัญลักษณ์ ประเทศสิงคโปร์ เป็นรูปปั้นสิงโตทะเลพ่นน้ำ สูงประมาณ 8.6 เมตร และหนัก 70 ตัน ตั้งอยู่ริมอ่าวมาริน่า ช่วงปากแม่น้ำสิงคโปร์ มีสวนสาธารณะที่ชื่อว่า Merlion Park ข้างสะพานเอสพลานาด (Esplanade Bridge) ด้านหน้าของโรงแรมฟลูเลอตัน (Fullerton Hotel ) ซึ่งเราสามารถมองเห็น Marina Bay Sand, Singapore Flyer, และตึกสูงบริเวณริมอ่าวมาริน่า
เวลาเปิด - ปิด : เปิดทุกวันตลอดเวลา
วิธีการเดินทาง : นั่ง MRT สาย East West Line หรือ North South Line มาลงที่สถานี Raffles Place จากนั้นเดินตามป้ายบอกทาง
2. Jewel Changi Airport
แลนด์มาร์กของท่าอากาศยานสิงคโปร์ชางงี หรือสนามบินชางงี ที่เปิดตัว Jewel Changi Airport ไลฟ์สไตล์คอมเพล็กซ์ที่มาในคอนเซ็ปต์ 'Discover a wondrous world where nature meets retail' ซึ่งจะตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคยุคใหม่ ที่ไม่เพียงจะมาเพื่อซื้อสินค้าหรือใช้บริการ แต่ที่นี่จะเป็นพื้นที่ๆ ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์และทุกด้านของการใช้ชีวิตอีกด้วย
เวลาเปิด - ปิด : ตัวอาคารเปิดให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง ส่วนร้านค้าต่างจะเปิดเวลา 10.00 - 22.00
วิธีการเดินทาง : สนามบิน Changi Airport
3. ย่านคาล์กคีย์
ย่านคลากคีย์(Clarke Quay) ย่าน กิน ดื่ม เที่ยว ยามค่ำคืนใจกลางเมือง สิงคโปร์ ที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวค่อนข้างมาก และเป็นย่านที่คึกคักมากที่สุดแห่งหนึ่ง อยู่ริม 2 ฝั่งของแม่น้ำสิงคโปร์(Singapore River) โดยมีสะพานคนเดินที่ชื่อว่า สะพาน Read Bridge หรือสะพานมาละกา(Malacca Bridge)เป็นตัวเชื่อม
มีร้านอาหารชื่อดัง เช่น ร้าน ปู Jumbo เมนูที่ห้ามพลาด Chilli Crab, และร้าน Iquana ที่เป็นร้านอาหารแม็กซิกันชื่อดังของสิงคโปร์ นอกจากนี้ยังมีผับบาร์ที่มีชื่อเสียงเช่น Zirca, Attica และ Ministry of Sound ถึงจะเป็นย่านท่องเที่ยวกลางคืนที่คึกคักแต่มีความเป็นระเบียบเรียบร้อยและสะอาด
เวลาเปิด - ปิด : ร้านอาหารส่วนใหญ่จะเปิดตอนเที่ยงและตอนเย็นจนถึงดึกๆ
วิธีการเดินทาง : นั่ง MRT สาย North East ลงที่สถานี Clark Quay
4. Nanyang Technological University
เป็นมหาวิทยาลัยชั้นนำของสิงคโปร์ ที่มีความโดดเด่นใน เรื่องวิศวกรรมและเทคโนโลยี ซึ่งสิ่งที่น่าสนใจและทำให้ที่นี้ได้รับความนิยม จากนักท่องเที่ยวคือ สถาปัตยกรรมอาคารที่สวยงามแปลกตา โดยเฉพาะตึกเข่งคล้ายติ่มซำ ซึ่งมีลักษณะคล้ายเข่งติ่มซำซ้อนกันไป มีมุมถ่ายรูปมากมาย และภายในอาคารก็เปิดให้ชมความสวยงาม
วิธีการเดินทาง : นั่ง MRT สาย East West Line มาลงที่สถานี Boon Lay Station จากนั้นนั่งรถ Bus สาย 179
5. Marina Bay Sand
แลนด์มาร์กสำคัญ สัญญลักษณ์ของประเทศสิงคโปร์ สถาปัตยกรรมตึกที่คล้ายรูปเรือขนาดใหญ่ อยู่ด้านบนของอาคาร Marina Bay Sand ที่เป็น complex ขนาดใหญ่รวมเอา รีสอร์ทหรู ศูนย์การค้า สวนลอยฟ้า พร้อมสระว่ายน้ำขนาดใหญ่แบบ infinity edge pool บนชั้นดาดฟ้าของตึก Marina Bay Sand มีจุดชมวิวเมืองสิงคโปร์มุมสูงที่สวยที่สุดชื่อว่า Marina Bay Sand Sky Park ในช่วงกลางคืน จะมีการแสดง แสง สี เสียง ที่ชื่อว่า Wonderfull Light & Water
เวลาเปิด - ปิด :
The Shoppes : วันอาทิตย์ - พฤหัสบดี 10.30 - 23.00, วันศุกร์ - เสาร์ และวันหยุด 10.30 - 23.30
Sand Sky Park : 09.30 - 22.00,
วิธีการเดินทาง : นั่ง MRT สาย Cricle Line หรือ Downtown Line
6. การแสดง แสง สี เสียง Wonderfull Light & Water
Wonder Full – Light & Water Spectacular เป็นการแสดง แสง สี เสียง และน้ำพลุ โดยจะจัดแสดงที่บริเวณตึก Marina Bay Sands เป็นการแสดงแสง สี เสียง ที่ยิ่งใหญ่ ตระการตา ที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ใช้เวลาแสดงประมาณ 15 นาที บริเวณที่เราสามารถชมการแสดงได้ดีที่สุดจะอยู่ฝั่ง Marina Bay Sand หรือที่นักท่องเที่ยวเรียกว่าลานพรอมเมอนาด แต่ถ้าอยากเห็นการแสดงบนยอดตึก Marina Bay Sand ให้ไปชมที่ฝั่ง Merlion Park
เวลาทำการแสดง
วันอาทิตย์-พฤหัสบดี จะมีการแสดง 2 รอบ คือ 20.00 น. และ 21.00 น.
วันศุกร์-เสาร์ จะมีการแสดง 3 รอบ 20.00 น., 21.00 น. และ 22.00 น. เข้าชมฟรี
วิธีการเดินทาง : หากจะไปชมการแสดงไฟที่ตึก Marina Bay Sands นั่ง MRT สาย East West Line และ North South Line ไปลงที่สถานี City Hall จากนั้นให้ข้ามสะพานมายังฝั่ง Merlion ส่วนใครที่อยากชมการแสดงน้ำพุให้นั่ง MRT สาย Circle Line และ Downtown Line ไปลงที่สถานี Bayfront
7. วัดเทียนฮกเก๋ง (Thain Hock Keng Temple )
เป็นวัดจีนที่เก่าแก่ที่สุดของประเทศสิงคโปร์และเป็นอีกหนึ่งวัดดังของย่านไชน่าทาวน์ ที่มีชื่อเสียงด้านความสวยงาม ความปราณีตของอาคารวัดตกแต่งด้วยรายละเอียดที่สวยงามด้วยวัสดุและชิ้นงานจากหลากหลายประเทศเช่น กระเบื้องจากยุโรป เสาหินแกรนิตแกะสลักลายมังกรจากจีน แผ่นป้ายจากราชวงศ์ชิง และยังเป็นการสร้างวิหารไม้แบบเข้าสลักโดยไม่ใช้ตะปูแม้แต่ตัวเดียว
เวลาเปิด - ปิด : 07.00 - 17.30
วิธีการเดินทาง : นั่ง MRT สาย Down Town Line และ North East Line มาลงที่สถานี China Town
8. วัดพระเขี้ยวแก้ว
เป็นวัดทางศาสนาพุทธ ที่สำคัญวัดหนึ่งของสิงคโปร์ ลักษณะเป็น อาคารสีแดงสด 4 ชั้น ภายในอาคารเป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุของส่วนฟัน หรือพระทนต์ ของพระพุทธเจ้า โดยมีรูปแบบทางด้านสถาปตยกรรมของจีนในราชวงศ์ถัง วัดแห่งนี้ตั้งอยู่ริมถนน ย่านไชน่าทาวน์ (Chinatown) ตลอดสองข้างทางเต็มไปด้วยเรื่องราววัฒนธรรมของชาวจีน ผสมผสานความเก่าแก่ของพิพิธภัณฑ์และวัดสไตล์จีนต่างๆเข้ากับความทันสมัยของร้านค้าในสไตล์ตึกสีพาสเพลสวยได้อย่างลงตัว
เวลาเปิด - ปิด : 07.00 - 19.00
วิธีการเดินทาง : นั่ง MRT สาย Down Town Line และ North East Line มาลงที่สถานี China Town
9. วัดศรีมาริอัมมันต์
เป็นวัดฮินดูที่เก่าแก่ที่สุดของประเทศสิงคโปร์ อยู่ในย่านไชน่าทาวน์ ฝั่งถนน South Bridge Road สร้างขึ้นตั้งแต่ปี ค.ศ.1827 เป็นวัดที่มีรายละเอียดของรูปปั้นและการแกะสลักมาก โดยเฉพาะเจดีย์ 6ชั้น ที่อยู่ด้านบนของประตูทางเข้า มีการแกะสลักรูปปั้นเทพและสัตว์ต่างๆตามนิทานปรำปราของศาสนาฮินดู จึงต้องมีการบำรุงรักษาอยู่เสมอ วัดแห่งนี้สร้างขึ้นโดยคนอพยพที่มาจากทางตอนใต้ของประเทศอินเดีย สร้างเพื่ออุทิศให้กับเทพธิดามาริอัมมันต์(Mariamman) ที่เชื่อกันว่ามีพลังในการรักษาโรคภัยไข้เจ็บต่างๆได้
เวลาเปิด - ปิด : เปิดให้ชมทุกวัน 2 รอบ 07.00 - 12.00 และ 18.00 - 21.00
วิธีการเดินทาง : นั่ง MRT สาย Down Town Line และ North East Line มาลงที่สถานี China Town
10. เจ้าแม่กวนอิม (Kwan Im Thong Hood Cho Temple)
วัดศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวสิงคโปร์และนักท่องเที่ยว มักจะมาขอพรเพื่อเสริมความสิริมงคลให้กับตนเองและครอบครัว วัดนี้ตั้งบน อยู่บนถนน Waterloo ย่านบูกิส ภายในวัดเป็นที่ประดิษฐานองค์เจ้าแม่กวนอิม ซึ่งเป็นเทพธิดาแห่งความเมตตาของจีน และเทพองค์อื่นๆ ที่ประดิษฐานในวิหารอีกด้วย
วันเวลา - เปิด : 10.00 - 18.00 น.
วิธีการเดินทาง : นั่ง MRT สาย Down Town Line และ สาย East West Line มาลงที่สถานี Bugis
11. Fountain of Wealth
น้ำพุแห่งความมั่งคั่งของสิงคโปร์ ตั้งอยู่ที่ Suntec City ใจกลางเมืองสิงคโปร์ น้ำพุนี้สร้างตามหลักฮวงจุ้ย มีขั้นตอนการสัมผัสน้ำ คือ ให้ใช้มือขวาสัมผัสน้ำ ระหว่างที่สัมผัสก็ให้อธิษฐาน และเดินตามเข็มนาฬิกาให้ครบ 3 รอบ จะนำมาซึ่งความมั่งคั่งร่ำรวยมาให้
โดยจะมีป้ายบอกวิธีการในการรับพลังเอาไว้ด้วย มีทั้งหมด 3 ขั้นตอนดังนี้
1.ใช้มือขวาแตะยื่นเข้าไปแตะน้ำพุ
2.ตั้งใจอธิฐานหรือขอพร
3.จากนั้นให้เดินวนรอบน้ำพุตามลูกศรสีแดงให้ครบทั้ง 3 รอบ
เวลาเปิด - ปิด : 08.00 - 22.00
10:00-12:00, 14:00-16:00 และ 18:00-19:30 และนอกจากนี้ก็จะมีการแสดงเลเซอร์บริเวณน้ำพุอีก 3 ช่วงเวลาคือ 20:00, 20:30 และ 21:30 ของทุกวันด้วย
วิธีการเดินทาง : นั่ง MRT สาย Circle Line และ Downtown Line มาลงที่สถานี Esplanade Station
12 . ถนนออร์ชาร์ด
ย่านช้อปปิ้งสุดทันสมัยของ สิงคโปร์ เป็นแหล่งรวมห้างดังและร้านค้าแบรนด์เนมระดับโลกมากมาย เต็มไปด้วยอาคารรูปทรงทันสมัย เหมาะสำหรับการมาเดินชอปปิ้งเลือกซื้อสินค้า บางช่วงจะมัการลดราคา แบบกระหน่ำ ถึงถนนออชาร์ด จะมีความทันสมัย แต่ตลอดแนวถนนก็มีความร่มรื่นของต้นไม้ใหญ่
เวลาเปิด - ปิด : ทุกวัน 10.00 - 22.00
วิธีการเดินทาง : นั่ง MRT สาย North South ลงที่ สถานี Orchard และ สถานี Someret
13. Fort Caning Park
เป็นสวนสาธารณะใจกลางเมืองสิงคโปร์ ซึ่งรายล้อมไปด้วยต้นไม้น้อยใหญ่มากมาย กลายเป็นพื้นที่สำหรับการพักผ่อนและออกกำลังกายที่ได้รับความนิยมมากที่สุดแห่งหนึ่งของสิงคโปร์ ไม่เพียงเท่านั้นจากการออกแบบสวนในสไตล์เก๋ ๆ จึงทำให้ Fort Canning Park กลายเป็นสถานที่ถ่ายรูปและเช็กอิน สุดชิคที่วัยรุ่นสิงคโปร์และนักท่องเที่ยวให้ความสนใจมากที่สุดในขณะนี้
เวลาเปิด - ปิด : 07.00 - 19.00
วิธีการเดินทาง : มีสถานีรถไฟใต้ดินอยู่รอบๆถึง 4 สถานี คือ Dhoby Ghaut Station, Bras Basah Station, Clarke Quay Station และ City Hall Station
14. บันไดวนสีพาสเทล ณ Bugis Village
สถานที่ถ่ายรูปเก๋ๆอีกมุมของสิงคโปร์ ที่ต้องมาเชคอิน Bugis Village แห่งนี้ ตั้งอยู่บริเวณถนน Victoria St. ตัดกับ Rochor Rd. มีลักษณะอาคารสไตล์โคโลเนียลสีขาว สวยสะดุดตา มีร้านค้า ร้านอาหารมากมาย แต่ไฮไลต์ของที่นี่จะอยู่ที่ด้านหลังของอาคาร กับบันไดวนสีพาสเทลสวยหวาน เหมาะกับการถ่ายรูป
วิธีการเดินทาง : นั่ง MRT สาย Down Town Line และ East West Line มาลงที่สถานี Bugis
