อิตาลีปิดเมืองกักกันประชาชน 15 ล้าน ยอดติดเชื้อไวรัสทั่วโลกทะลุหลักแสน

อิตาลีปิดเมืองกักกันประชาชน 15 ล้าน ยอดติดเชื้อไวรัสทั่วโลกทะลุหลักแสน

เอเจนซีส์ - ชาวอิตาลี 1 ใน 4 ครอบคลุมประชากรกว่า 15 ล้านคน ในแคว้นลอมบาร์ดี และ 14 จังหวัดในอีก 4 แคว้น รวมถึงเมืองเวนิส เมืองมิลาน ล้วนถูกกักกันภายใต้มาตรการสกัดการระบาดของไวรัสโคโรนา ซึ่งขณะนี้ลามหนักทั่วโลก ยอดผู้ติดเชื้อทะลุแสน ส่วนละตินอเมริกาพบผู้เสียชีวิตรายแรก ขณะที่รัฐนิวยอร์กประกาศภาวะฉุกเฉิน

 





อิตาลีที่มีผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 มากที่สุดรองจากจีน ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นการระบาด ประกาศในวันอาทิตย์ (8 มี.ค.) ห้ามประชาชนเข้าหรือออกจากพื้นที่กักกันโรคทางภาคเหนือยกเว้นมีเหตุจำเป็นหรือเร่งด่วนจนถึงวันที่ 3 เมษายน


ภายใต้คำสั่งที่ลงนามโดยนายกรัฐมนตรี จูเซปเป คอนติ เมื่อคืนวันเสาร์ (7 มี.ค.) และเผยแพร่ทางออนไลน์นั้น พื้นที่กักกันโรคครอบคลุมประชากรกว่า 15 ล้านคน ในแคว้นลอมบาร์ดี และ 14 จังหวัดในอีก 4 แคว้น รวมถึงเมืองเวนิส เมืองมิลาน

พิพิธภัณฑ์ ฟิตเนส ศูนย์วัฒนธรรม รีสอร์ตสกี และสระว่ายน้ำในเขตกักกันจะต้องปิดให้บริการ ขณะที่ร้านอาหารและบาร์ได้รับอนุญาตให้เปิดได้ระหว่าง 6.00-18.00 น. และต้องรับประกันว่า ลูกค้าจะอยู่ห่างกันอย่างน้อย 1 เมตร นอกจากนั้น รัฐบาลอิตาลียังสั่งการให้โรงภาพยนตร์ โรงละคร และพิพิธภัณฑ์ทั่วประเทศปิดให้บริการ

ปัจจุบัน มีผู้เสียชีวิตทั่วโลกราว 3,500 คน ส่วนใหญ่อยู่ในจีน ที่เหลืออยู่ในอย่างน้อย 95 ประเทศและดินแดน รวมถึงอาร์เจนตินาที่พบผู้เสียชีวิตรายแรกในละตินอเมริกาเมื่อวันเสาร์

ที่อเมริกา ผู้โดยสารบนเรือสำราญแกรนด์ปรินเซสที่จอดอยู่นอกชายฝั่งซานฟรานซิสโก ได้รับคำสั่งให้กักตัวเองในห้องพักระหว่างรอตรวจหาเชื้อโควิด-19 หลังจากพบผู้ติดเชื้อ 21 คนบนเรือ ล่าสุด เมื่อคืนวันเสาร์ เรือลำนี้ได้รับอนุญาตให้เข้าเทียบท่าเมืองโอ๊คแลนด์แล้ว

ก่อนหน้านี้ รองประธานาธิบดี ไมค์ เพนซ์ ที่ได้รับมอบหมายให้จัดการการระบาดของไวรัสโคโรนา ระบุว่า ผู้โดยสารและลูกเรือทั้ง 3,533 คน จะต้องถูกตรวจและกักตัวถ้าจำเป็น นอกจากนี้ ไวรัสโคโรนายังระบาดไปยัง 30 เมืองของอเมริกา ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 19 คน และรัฐนิวยอร์กประกาศภาวะฉุกเฉิน

ขณะเดียวกัน เรือสำราญอีกลำ คือ คอสตาฟอร์จูนา ถูกไทยและมาเลเซียปฏิเสธไม่ให้เข้าเทียบท่า เนื่องจากกังวลกับไวรัส เรือลำนี้มีผู้โดยสารและลูกเรือประมาณ 2,000 คน รวมถึงชาวอิตาลีหลายสิบคน

องค์การอนามัยโลก (ฮู) กล่าวว่า จำนวนผู้ติดเชื้อทั่วโลกขณะนี้ที่เกิน 100,000 คนแล้วเป็น “ช่วงเวลาที่มืดมน” อย่างไรก็ตาม จำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ที่จีนมีรายงานในวันอาทิตย์มีเพียง 44 คน ต่ำสุดในรอบหลายสัปดาห์ เกือบทั้งหมดอยู่ในเมืองอู่ฮั่น เมืองหลวงของมณฑลหูเป่ย ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นการระบาด ส่วนผู้ติดเชื้อใหม่ที่เหลืออยู่ในปักกิ่งโดยเป็นผู้ที่เดินทางจากอิตาลีและสเปน ท่ามกลางความกังวลมากขึ้นว่า ไวรัสโคโรนาจากประเทศอื่นจะกลับมาระบาดในจีน

ทางการจีนยังส่งสัญญาณว่า อาจยกเลิกมาตรการปิดเมืองในมณฑลหูเป่ยเร็วๆ นี้ หลังจากประชาชนราว 56 ล้านคนกักกันตัวเองในบ้านมาตั้งแต่ปลายเดือนมกราคม

ฮู สำทับว่า ความพยายามของจีนและประเทศต่างๆ แสดงให้เห็นว่า อาจชะลอการระบาดได้ด้วยมาตรการกักกันและควบคุมขั้นเด็ดขาด

ขณะที่ยอดผู้เสียชีวิตในอิตาลีเพิ่มขึ้นทำสถิติสูงสุดที่ 233 คนในวันเสาร์ วาติกันแถลงว่า พระสันตะปาปาฟรานซิสจะนำสวดทูตสวรรค์แจ้งข่าว (Angelus prayer) ผ่านไลฟ์สตรีมแทนการนำสวดจากพระบัญชรที่ประทับตามปกติ

ทั้งนี้ ข้อมูลของธนาคารโลก ระบุว่า อิตาลีเป็นประเทศที่มีประชากรสูงวัยมากที่สุดในโลกอันดับ 2 รองจากญี่ปุ่น และผู้สูงวัยคือกลุ่มที่มีความเสี่ยงสูงสุดที่จะป่วยรุนแรงหรือเสียชีวิตจากโควิด-19

โคลอมเบีย คอสตาริกา มอลตา มัลดีฟส์ บัลแกเรีย และ ปารากวัย คือ กลุ่มประเทศที่พบผู้ติดเชื้อรายแรกเมื่อวันเสาร์ ส่วนที่เกาหลีใต้ ศูนย์เพื่อการควบคุมและป้องกันโรครายงานยอดผู้ติดเชื้อใหม่จากช่วงคืนวันเสาร์ถึงเช้าวันอาทิตย์ 93 คน รวมทั้งหมด 7,134 คน สูงที่สุดในโลกรองจากจีน

แม้จำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ลดลงจากช่วงเดียวกันของวันก่อน แต่เจ้าหน้าที่สาธารณสุขเกาหลีใต้ เตือนว่า ตัวเลขอาจผันผวนขณะที่กำลังประมวลผลการทดสอบเพิ่มเติม ส่วนที่อิหร่านพบผู้เสียชีวิต 21 คน และผู้ติดเชื้อใหม่ 1,076 คนในวันเสาร์เช่นเดียวกัน รวมยอดผู้ติดเชื้อทั้งหมด 5,823 คน และเสียชีวิต 145 คน

การระบาดของไวรัสโคโรนายังส่งผลกระทบต่อธุรกิจ การท่องเที่ยว การจัดแข่งขันกีฬาทั่วโลก และนักเรียนนักศึกษาเกือบ 300 ล้านคนถูกส่งตัวกลับประเทศบ้านเกิด เนื่องจากโรงเรียนและมหาวิทยาลัยจำนวนมากปิด

การแข่งขันกีฬาหลายสิบรายการถูกยกเลิก ในจำนวนนี้รวมถึงรักบี้หญิงระหว่างสกอตแลนด์กับฝรั่งเศสที่เดิมกำหนดแข่งในวันเสาร์ที่กลาสโกว์ แต่ต้องเลื่อนออกไปหลังผลตรวจนักรักบี้สก็อตแลนด์คนหนึ่งออกมาเป็นบวก

อย่างไรก็ตาม ซาอุดีอาระเบียกลับเปิดบริเวณรอบวิหารศักดิ์สิทธิ์กะอ์บะฮ์ในสุเหร่าหลวงนครเมกกะอีกครั้ง หลังจากระงับพิธีอุมเราะห์มานานหนึ่งปี โดยในพิธีดังกล่าวผู้สวดมนต์จะเดินรอบกะอ์บะฮ์ 7 รอบ แต่ทางการริยาดยังห้ามเข้าไปในบริเวณกะบะฮ์และทำการฆ่าเชื้อสุเหร่าหลวง

 

BY : ขนุน

ที่มา : MGR ONLINE  

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้